สวัสดีครับ วันนี้เราจะมาแนะนำกล้องตัวใหม่ ซึ่งได้เปิดตัวในบ้านเราเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมาและได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นจำนวนมาก เนื่องจากประสิทธิภาพที่มีมากขึ้นตลอดจนการพัฒนาเทคโนโลยีที่มีอยู่ให้ดีขึ้นกว่าเดิมเพื่อตอบสนองการใช้งานของลูกค้าในช่วงของยุคดิจิตัล ณ ปัจจุบัน กล้องที่เราจะกล่าวถึง คือ SONY FX6 Cinema Line ตอนนี้เรามาดูกันว่าคุณสมบัติของตัวกล้องที่เน้นในเรื่องการถ่ายภาพยนตร์เป็นอย่างไรกันบ้างนะครับ
· FX6 มาด้วยเอกลักษณ์ที่แสดงความเป็น SONY คือ เซนเซอร์ Exmor RTM CMOS 10.2 เมกะพิกเซล แบบ ฟูลเฟรม 35mm.
· FX6 มีระบบประมวลผลภาพ BIONZ XRTM จะช่วยให้การอ่านค่าความเร็วสูงของเซนเซอร์ทำงานสอดรับกับพลังการประมวลผลที่สูงทำให้เพิ่มประสิทธิภาพการตอบสนองของอินเตอร์เฟสกล้องได้ดียิ่งขึ้น
· FX6 มีค่า ISO800 ทำให้ FX6 มีช่วงไดนามิกที่มีประสิทธิภาพสำหรับสภาพแวดล้อมภายในอาคารที่มีแสงสว่างที่เพียงพอ รวมถึงการถ่ายทำสารคดีกลางแจ้ง ความไว ISO 12800 ที่เพิ่มขึ้นถูกออกแบบมาสำหรับสภาพแสงน้อย การถ่ายภาพในเวลาเช้าและเย็น FX6 มีช่วงไดนามิก 15+ สต็อป จึงช่วยให้ผู้ใช้สร้างสรรค์ผลงานได้อย่างอิสระในการปรับระดับสีและขั้นตอนหลังการถ่ายทำ
· FX6 มีการใช้ S-Cinetone ที่มีชื่อเสียงของ Sony ซึ่งมาจากการพัฒนา FX9 ทำให้ได้ภาพที่สวยงาม
· FX6 สามารถบันทึก 4K (QFHD) แบบฟูลเฟรมที่ 120 เฟรม/วินาที และ มีโหมดสโลว์และควิก (S&Q) ช่วยให้ควบคุมอัตราเฟรมที่ถ่ายได้อย่างสมบูรณ์แบบตั้งแต่ 1 ถึง 120fps
· FX6 มี Fast Hybrid AF ติดตามวัตถุอย่างมีประสิทธิภาพเกือบทั่วทั้งเฟรม (AF ตรวจจับระยะห่างระนาบโฟกัส 627จุดครอบคลุมพื้นที่ภาพประมาณ 89%) ช่วยให้ควบคุมโฟกัสได้สะดวกยิ่งขึ้น
· FX6 สามารถเลือกความเร็วการเปลี่ยน AF มากกว่า 7 ระดับ และความไวในการเปลี่ยนวัตถุของ AF มากกว่า 5 ระดับ ทำให้ผู้ใช้สามารถมีอิสระในการสร้างสรรค์ผลงานได้มากขึ้น
· FX6 มีระบบโฟกัสอัตโนมัติดวงตาแบบเรียลไทม์และโฟกัสอัตโนมัติตรวจจับใบหน้าในตัวเพื่อการโฟกัสบุคคลอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมการถ่ายภาพที่ไม่สามารถคาดเดาได้ เช่น การให้ข่าว ภาพเหตุการณ์ และการถ่ายทำสารคดี
· FX6 มีฟิลเตอร์ Variable Neutral Density (ND) อิเลกทรอนิกส์ในตัวซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ Sony สิ่งที่ต่างจากฟิลเตอร์ ND ออปติคอลทั่วไปคือ ฟิลเตอร์ ND อิเลกทรอนิกส์บน FX6 นั้นสามารถควบคุมได้ตั้งแต่ 1/4ND ถึง 1/128ND
· FX6 มีฟังก์ชั่น AF Assist หากมีการหมุนวงแหวนโฟกัส กล้องจะเปลี่ยนจากโฟกัสอัตโนมัติมาเป็นโฟกัสด้วยตัวเองทันทีเพื่อให้สามารถเลือกวัตถุได้อย่างรวดเร็ว การทำงานแบบออโต้โฟกัสจะกลับมาอีกครั้งเมื่อผู้ใช้หยุดหมุนวงแหวนโฟกัสของเลนส์ และกล้องจะติดตามวัตถุสุดท้ายที่เลือกด้วยวงแหวนโฟกัสโดยอัตโนมัติ
· FX6 มีฟังก์ชัน Scene File แปลข้อมูลสีภาพในกล้องโดยตรง ด้วยช่วงที่กำหนดล่วงหน้าและอิมพอร์ต User 3D LUT แบบกำหนดเองเพื่อให้เหมาะกับความต้องการด้านการผลิต Scene File สามารถตั้งค่าล่วงหน้าได้ 4 ชนิด สำหรับถ่ายภาพ SDR (S-Cinetone, Standard, Still, ITU709) และ 2 ชนิดสำหรับ HDR (HLG Live, HLG Natural)
· FX6 สามารถบันทึก 10 บิต 4:2:2 ด้วยการบีบอัด All Intra ซึ่งทำให้สามารถขยายระดับสีได้มากขึ้น
· FX6 มีเส้นโค้งแกมม่า S-Log3 ให้ใช้งาน โดย S-Log3 ออกแบบมาสำหรับการสร้างการไล่ระดับจากเงาถึงช่วงสีเทากลาง (สีเทา 18%) ช่วยให้ช่วงไดนามิกสูงถึง 15 สต็อป มีการตั้งค่าช่วงสีให้ 2 ค่า (S-Gamut3 และ S-Gamut3.Cine) ช่วยให้จับคู่สีของการถ่ายฟุตเทจกับกล้องกลุ่มภาพยนตร์ Sony ได้ง่ายขึ้น เนื่องจากสีที่ตรงกัน การไล่ระดับสีในการตัดต่อหลังการถ่ายทำจะง่ายขึ้น ทำให้การใช้งานร่วมกับกล้องระดับมืออาชีพอื่นๆ สามารถทำได้ง่ายขึ้น
· FX6 มีเอาต์พุต SDI RAW 16 บิต
· FX6 สามารถบันทึกไฟล์ HD Proxy อัตราบิตต่ำไปพร้อมกันกับรูปแบบอัตราบิตสูง เช่น XAVC 4K และสามารถใช้ไฟล์ Proxy ขนาดเล็กเหล่านี้สำหรับการตัดต่อและดูตัวอย่างก่อนได้
เราจะเห็นได้ว่า SONY ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีและฟังก์ชั่นที่มีอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้ให้ได้รับอิสระในการสร้างสรรค์ผลงานได้มากขึ้น ตลอดจนลดขั้นตอนในการผลิตและได้รับความสะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยกล้องSONY FX6 Cinema Line จะเน้นในเรื่องของการถ่ายทำภาพยนตร์ โดยที่รูปลักษณ์ของตัวกล้องไม่ใหญ่มีขนาดกะทัดรัด พกพาได้ง่าย จึงทำให้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้ใช้ที่ต้องการความคล่องตัวและคุณภาพที่ได้สามารถตอบโจทย์ให้กับผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี
ขอขอบคุณ ** SONY** สำหรับข้อมูล ครับ