ออกแบบเพื่อการสร้างสรรค์ภาพยนตร์ระดับมืออาชีพ
Sony FX3 มาพร้อมกับเซ็นเซอร์ Exmor R CMOS แบบฟูลเฟรม (BSI) ความละเอียด 10.2MP ที่ให้ความไวแสงสูง ความเร็วในการประมวลผลที่ยอดเยี่ยม และคุณภาพวิดีโอระดับมืออาชีพ เซ็นเซอร์นี้ได้รับการออกแบบด้วยฟิลเตอร์สีที่ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการถ่ายทอดสี และให้ ไดนามิกเรนจ์สูงถึง 15 สต็อป พร้อมทั้งลดสัญญาณรบกวน ทำให้ภาพคมชัดสะอาดตา นอกจากนี้ เซ็นเซอร์ Exmor R ยังรองรับ ระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบไฮบริดความเร็วสูง ด้วย 627 จุดโฟกัสแบบ Phase Detection ครอบคลุม 89% ของพื้นที่ภาพ สำหรับงานวิดีโอ และสามารถโฟกัสได้แม้ในสภาพแสงน้อยถึง EV-6
ความละเอียดที่มีประสิทธิภาพ: 10.2 ล้านพิกเซลสำหรับวิดีโอ และ 12.1 ล้านพิกเซลสำหรับภาพนิ่ง
จำนวนจุดโฟกัสอัตโนมัติและพื้นที่ครอบคลุมอาจแตกต่างกันไปตามโหมดการบันทึก โดยโหมดวิดีโอรองรับ 627 จุด Phase Detection (89% ของเฟรม) และโหมดภาพนิ่งรองรับ 759 จุด Phase Detection (92% ของเฟรม)
Sony FX3 ใช้ สถาปัตยกรรมระบบ BIONZ XR แบบเดียวกับ FX6 ซึ่งให้การประมวลผลที่รวดเร็วตั้งแต่การรับภาพไปจนถึงทุกขั้นตอนของการประมวลผลสัญญาณ ระบบนี้ช่วยกระจายการประมวลผลระหว่าง ส่วนติดต่อผู้ใช้ (UI), เครือข่าย และการจัดการไฟล์ ทำให้กล้องตอบสนองได้อย่างรวดเร็วและราบรื่น แม้ในขณะที่มีภาระการประมวลผลแบบเรียลไทม์สูง
ชิปประมวลผลนี้ยังช่วยให้ FX3 มี ความไวแสงสูง, การไล่ระดับสีที่เป็นธรรมชาติ, สีสันที่สมจริง, สัญญาณรบกวนต่ำ, และ ระบบโฟกัสอัตโนมัติ (AF) ที่รวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังสามารถรองรับ การบันทึกวิดีโอ 4K 120p ในรูปแบบ 10-bit 4:2:2 ที่ต้องใช้การประมวลผลข้อมูลปริมาณมากได้อย่างมีประสิทธิภาพ
FX3 ยังได้รับการปรับปรุงให้มี การตอบสนองของเมนูที่รวดเร็วขึ้น และสามารถ เขียนข้อมูลลงการ์ด CFexpress Type A ได้ด้วยความเร็วสูง เพื่อประสิทธิภาพในการทำงานระดับมืออาชีพ
Sony FX3 ถูกออกแบบมาให้มี ตัวกล้องที่กะทัดรัดและจัดการได้ง่าย ช่วยให้กระบวนการทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นและเพิ่มอิสระในการถ่ายทำสำหรับครีเอเตอร์ในงานวิดีโอ
หนึ่งในจุดเด่นของ FX3 คือ ไม่จำเป็นต้องใช้เคจเสริม (Cage-Free Design) เนื่องจากตัวกล้องมี จุดยึดมาตรฐาน 1/4”-20 UNC จำนวน 6 จุด ที่ช่วยให้สามารถติดตั้งอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ เช่น มอนิเตอร์ภายนอก, เครื่องบันทึก, ไมโครโฟนไร้สาย และอุปกรณ์อื่น ๆ ได้อย่างมั่นคงและง่ายดาย
นอกจากนี้ FX3 ยังมาพร้อมกับ ด้ามจับด้านบน (Top Handle) ที่มีอินเทอร์เฟซ XLR ซึ่งสามารถติดเข้ากับตัวกล้องผ่าน Multi Interface Shoe โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษ อีกทั้งยังมี จุดยึดเกลียวเสริมอีก 3 จุด บนด้ามจับ เพื่อรองรับการติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติม
เนื่องจากไม่ต้องใช้เคจเสริม ทำให้ ขนาดและน้ำหนักของอุปกรณ์ลดลง ส่งผลให้ พกพาสะดวกและติดตั้งได้รวดเร็วยิ่งขึ้น FX3 จึงเป็นกล้องที่ตอบโจทย์ ครีเอเตอร์สายเดี่ยว (Single Operator) ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งในด้านความคล่องตัว ความสะดวกในการใช้งาน และความสามารถในการขยายระบบตามความต้องการที่เพิ่มขึ้น
Sony FX3 มาพร้อมกับ เซ็นเซอร์ความละเอียด 10.2MP ที่ออกแบบมาเพื่อการถ่ายวิดีโอ 4K* โดยเฉพาะ ด้วยการอ่านค่าพิกเซลแบบเต็ม (Full-Pixel Readout) โดยไม่มีการ Binning
เซ็นเซอร์ฟูลเฟรมของ FX3 มี พื้นที่รับแสงกว้างกว่าที่พบในเซ็นเซอร์ Super 35 และเนื่องจากมีจำนวนพิกเซลที่ต่ำกว่ากล้องฟูลเฟรมที่มีความละเอียดสูงกว่า จึงทำให้แต่ละพิกเซลมีขนาดใหญ่ขึ้น ส่งผลให้สามารถ รับแสงได้ดีขึ้น ลดสัญญาณรบกวน และให้ภาพที่คมชัดแม้ในสภาพแสงน้อย
FX3 รองรับ ISO มาตรฐานตั้งแต่ 80 - 102,400 และสามารถขยายได้ถึง 40 - 409,600 สำหรับภาพนิ่ง และ 80 - 409,600 สำหรับวิดีโอ ทำให้สามารถถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ FX3 ยังใช้ เทคโนโลยีเซ็นเซอร์ Exmor R แบบ BSI (Backside-Illuminated CMOS) ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการรับแสงและเพิ่มความเร็วในการอ่านข้อมูลเป็นสองเท่า เมื่อรวมกับระบบประมวลผลที่รวดเร็ว ทำให้กล้องสามารถถ่ายทอด ไดนามิกเรนจ์กว้างถึง 15+ สต็อป เมื่อนำไปใช้ร่วมกับโปรไฟล์ S-Log3ความละเอียดที่มีประสิทธิภาพ: 10.2 ล้านพิกเซลสำหรับวิดีโอ และ 12.1 ล้านพิกเซลสำหรับภาพนิ่ง
การถ่ายทำใน S-Log3 ภายใต้เงื่อนไขการทดสอบของ Sony อาจต้องมีการเกรดสีเพิ่มเติม
เพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับมิติของภาพที่สื่ออารมณ์ได้อย่างลึกซึ้ง Sony FX3 เช่นเดียวกับกล้องในตระกูล Cinema Line อย่าง FX9 และ FX6 มาพร้อมกับ โปรไฟล์ภาพ S-Cinetone ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างลุคแบบภาพยนตร์ได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องพึ่งพาการปรับแต่งสีในขั้นตอนหลังการถ่ายทำ
S-Cinetone ได้รับแรงบันดาลใจจาก เทคโนโลยีการจัดการสีของกล้อง Sony VENICE ซึ่งเป็นกล้องภาพยนตร์ระดับเรือธงของ Sony โดยให้ โทนกลางที่ดูเป็นธรรมชาติ, สีสันที่นุ่มนวล และไฮไลต์ที่สวยงาม ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของงานภาพยนตร์ที่ดูเป็นมืออาชีพ
สำหรับ FX3 โปรไฟล์ S-Cinetone ถูกตั้งเป็นค่าเริ่มต้นใน Picture Profile 11 (PP11) ทำให้สามารถใช้งานได้สะดวกและพร้อมสร้างลุคแบบภาพยนตร์ได้ทันที
Sony FX3 มอบตัวเลือกอินพุตเสียงที่หลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของมืออาชีพและรองรับเวิร์กโฟลว์ที่แตกต่างกัน
ตัวกล้องมาพร้อมกับ ช่องเสียบไมโครโฟนมาตรฐานขนาด 3.5 มม., รองรับ Sony MI (Multi Interface) Shoe ซึ่งช่วยให้สามารถเชื่อมต่อไมโครโฟน MI Shoe ที่รองรับ ได้โดยไม่ต้องใช้สายเคเบิล, และ ด้ามจับด้านบน (Top Handle) ที่มี XLR Interface ซึ่งมีช่องเสียบไมโครโฟนขนาด 3.5 มม. และ อินพุตเสียงแบบ Balanced XLR/TRS จำนวน 2 ช่อง ทำให้สามารถบันทึกเสียงคุณภาพสูงโดยตรงเข้าสู่ FX3
เมื่อเชื่อมต่อไมโครโฟนแบบ XLR หรือ TRS ผ่านด้ามจับ XLR ระบบจะจัดการ การแปลงสัญญาณจากอนาล็อกเป็นดิจิทัล (A/D Conversion) และ การประมวลผลสัญญาณดิจิทัล (DSP) ก่อนส่งข้อมูลเสียงดิจิทัลไปยังกล้องโดยตรง ทำให้ได้ คุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม
FX3 รองรับรูปแบบการบันทึกเสียงหลายรูปแบบ รวมถึง การบันทึกเสียง 4 แชนแนลที่ 24-bit และเนื่องจาก อะแดปเตอร์ XLR ถูกฝังอยู่ในด้ามจับโดยไม่ต้องใช้สายเคเบิลหรือแบตเตอรี่เพิ่มเติม ทำให้การตั้งค่าระบบเสียงเป็นเรื่องง่ายและสะดวกสบาย
Sony FX3 รองรับโหมดบันทึกวิดีโอ 4K ที่หลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการทางสร้างสรรค์และรูปแบบการทำงานที่แตกต่างกัน
กล้องสามารถบันทึกวิดีโอ 4K ที่อัตราเฟรมเรตสูงสุด 120 fps* ซึ่งให้ภาพสโลว์โมชั่นที่ลื่นไหลสูงสุดถึง 5 เท่า เมื่อเล่นที่ 24 fps** นอกจากนี้ FX3 ยังรองรับการบันทึกในรูปแบบ 10-bit 4:2:2 และสามารถเลือกใช้การบีบอัดแบบ Long GOP (Inter-frame) เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด หรือ All-I (Intra-frame) เพื่อคุณภาพสูงสุด โดยรองรับอัตราบิตเรตสูงสุด 1200 Mbps (4:2:2 10-bit, H.264, All-I)* ทำให้ได้คุณภาพของภาพที่ยอดเยี่ยม
นอกจากนี้ FX3 ยังสามารถถ่าย สโลว์โมชั่นสูงสุดถึง 10 เท่าในความละเอียด Full HD ที่ 240 fps (เมื่อเล่นที่ 24 fps) ช่วยให้สามารถจับภาพแอ็กชันและกีฬาต่าง ๆ ได้จากมุมมองใหม่ที่น่าตื่นเต้นโหมดโฟกัสดวงตาสำหรับมนุษย์และสัตว์ (Human & Animal Eye-AF) ไม่รองรับในการถ่ายวิดีโอ
โหมด S&Q ไม่รองรับการบันทึกเสียง