เทคนิคการใช้ไมโครโฟนแบบ Shotgun และ Lavalier ที่ถูกต้องสำหรับการสัมภาษณ์วิดีโอ
ความสำคัญของการบันทึกเสียงในการสัมภาษณ์
เสียงจากการบันทึกสัมภาษณ์เป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุด หากไม่มีเสียงที่คมชัดและมีคุณภาพดี เรื่องราวที่ต้องการสื่ออาจสูญเสียความหมายไป แม้ว่าจะมีฟุตเทจเสริมหรือข้อความบนหน้าจอ ก็ไม่สามารถสร้างอารมณ์และความน่าสนใจได้เท่ากับเสียงของบุคคลที่พูดจากใจ
สำหรับมือใหม่ที่เริ่มขยายชุดอุปกรณ์ไปสู่การบันทึกเสียง หรือช่างภาพที่เริ่มหันมาทำวิดีโอ การเรียนรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์และเทคนิคการบันทึกเสียงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานสัมภาษณ์และวิดีโอสารคดี ซึ่งเสียงเป็นหัวใจหลักของการเล่าเรื่อง
วิธีการบันทึกเสียงในการสัมภาษณ์
มี 3 วิธีหลักในการบันทึกเสียงสัมภาษณ์ ได้แก่
ไมโครโฟนติดกล้อง – ใช้งานสะดวกและเหมาะสำหรับสถานการณ์ที่ต้องการความคล่องตัว แต่คุณภาพเสียงอาจไม่ดีเท่ากับไมโครโฟนเฉพาะทาง
ไมโครโฟน Lavalier (ไมค์หนีบปกเสื้อ) – ให้เสียงคมชัดและสม่ำเสมอ เนื่องจากอยู่ใกล้ปากของผู้พูด เหมาะสำหรับการสัมภาษณ์ที่ต้องการเสียงที่ชัดเจนโดยมีเสียงรบกวนน้อย
ไมโครโฟน Shotgun (ไมค์บูม) – มักใช้ติดตั้งบนขาตั้งหรือบูมโพล และอยู่ใกล้ผู้พูดโดยไม่ปรากฏในเฟรม รับเสียงจากทิศทางเดียวได้ดี เหมาะสำหรับการบันทึกเสียงในสตูดิโอหรือสภาพแวดล้อมที่สามารถควบคุมเสียงรบกวนได้
ในหัวข้อถัดไป เราจะอธิบายรายละเอียดของไมโครโฟนแต่ละประเภท พร้อมเทคนิคการใช้งานและคำแนะนำเกี่ยวกับรุ่นที่แนะนำ
การบันทึกเสียงจากไมโครโฟนติดกล้องหรือไมค์ในตัว
กล้องวิดีโอแทบทุกตัวมักมีไมโครโฟนในตัว แต่ไม่ควรใช้เป็นแหล่งบันทึกเสียงหลักสำหรับการสัมภาษณ์ ไมค์ประเภทนี้เหมาะสำหรับการบันทึกเสียงอ้างอิง (Reference Audio) หรือเสียงบรรยากาศ (Natural Sounds - NAT) เท่านั้น เนื่องจากสามารถรับเสียงจากทั่วทั้งฉาก ทำให้เสียงของผู้ให้สัมภาษณ์ฟังดูห่างไกลและไม่คมชัด
การบันทึกเสียงด้วยไมโครโฟนติดกล้อง
ทางเลือกที่ดีกว่าไมโครโฟนในตัวคือการใช้ไมโครโฟน Shotgun ติดกล้อง เช่น Rode VideoMic Pro ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ใช้กล้อง DSLR หากเป็นกล้องที่มีช่องเสียบ XLR ไมค์ Shotgun ขนาดสั้น เช่น Rode NTG-2 หรือ Sony MKH-60 ก็เป็นตัวเลือกที่ดี
ไมค์ติดกล้องเหมาะสำหรับการถ่ายทำแบบ Run-and-Gun ที่ต้องการความรวดเร็วและไม่มีเวลาติดตั้งไมค์ให้ผู้พูด หรือไม่มีงบประมาณสำหรับผู้ถือบูม อย่างไรก็ตาม หากเป็นการสัมภาษณ์แบบนั่งพูด การใช้ไมค์ที่ติดอยู่บนกล้องไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด เพราะไมค์อยู่ห่างจากปากผู้พูดมากเกินไป
หลักการสำคัญของการบันทึกเสียงคือ ควรให้ไมโครโฟนอยู่ใกล้แหล่งเสียงให้มากที่สุด เพื่อให้ได้เสียงที่คมชัดและมีคุณภาพสูง
การใช้ไมโครโฟน Lavalier
ไมโครโฟน Lavalier (หรือ "lav" mic) เป็นไมค์ขนาดเล็กที่ติดหนีบกับเสื้อผ้าของผู้พูด โดยมักหนีบที่ขอบเสื้อแจ็กเก็ต หรือระหว่างกระดุมเสื้อเชิ้ต ไมค์ประเภทนี้ติดตั้งง่าย และให้คุณภาพเสียงที่ดีเมื่อวางห่างจากปากผู้พูดประมาณ 6-8 นิ้ว
ไมค์ Lavalier เป็นตัวเลือกที่นิยมใช้ในการสัมภาษณ์ เนื่องจากสะดวกและสามารถบันทึกเสียงได้อย่างคมชัด ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้ใน 90% ของการสัมภาษณ์ ที่ใช้ถ่ายทำ
ข้อดีและวิธีการบันทึกเสียงจากไมค์ Lavalier
แม้ว่าไมโครโฟน Lavalier อาจให้ช่วงเสียง (tonal range) ไม่กว้างเท่าไมค์ Shotgun ในช่วงราคาเดียวกัน แต่ด้วยความสะดวกในการใช้งาน ทำให้ไมค์ประเภทนี้กลายเป็นมาตรฐานในอุตสาหกรรมสำหรับการถ่ายทำวิดีโอสัมภาษณ์
การบันทึกเสียงจากไมโครโฟน Lavalier สามารถทำได้ 3 วิธีหลัก ได้แก่:
ใช้ตัวส่งและตัวรับสัญญาณไร้สาย (Wireless Transmitters and Receivers)
วิธีนี้เป็นที่นิยมที่สุด โดยไมค์ Lavalier จะเชื่อมต่อกับตัวส่งสัญญาณแบบพกพา (belt pack transmitter) ซึ่งส่งสัญญาณไร้สายไปยังตัวรับสัญญาณที่เสียบเข้ากับช่องอินพุตเสียงของกล้องหรือเครื่องบันทึกเสียง เช่น Zoom H4n ข้อดีคือความสะดวกในการใช้งาน แต่ต้องระวังเรื่องแบตเตอรี่ที่ควรมีพลังงานเต็มเสมอ และเลือกความถี่ที่ไม่มีสัญญาณรบกวน Sennheiser G3 เป็นตัวเลือกมาตรฐานที่ได้รับความนิยมในอุตสาหกรรม
เสียบสายตรงเข้ากล้อง (Wired Directly into the Camera)
วิธีนี้ใช้ไมค์ Lavalier แบบมีสาย เช่น Shure SM93 โดยเสียบเข้าช่อง XLR ของกล้องโดยตรง เป็นทางเลือกที่ถูกกว่าการใช้ระบบไร้สาย และเหมาะสำหรับสถานที่ที่มีสัญญาณวิทยุรบกวนสูง ลดความเสี่ยงของเสียงขาดหาย
เชื่อมต่อกับเครื่องบันทึกเสียงแยก (Plug into a Stand-Alone Recorder)
หากไม่รังเกียจที่จะต้องซิงค์เสียงกับวิดีโอภายหลัง วิธีนี้เป็นอีกตัวเลือกที่ง่ายและสะดวก เช่น ใช้ Zoom H1 ซึ่งมีขนาดเล็ก ใช้งานง่าย เพียงเสียบไมค์ Lavalier ตั้งค่าระดับเสียง กดบันทึก และปล่อยให้เครื่องบันทึกเสียงตามผู้พูดไปทุกที่
การใช้สมาร์ทโฟนเป็นเครื่องบันทึกเสียง
อีกทางเลือกที่ใหม่กว่าและอาจมีราคาถูกกว่าสำหรับบางคนคือ การใช้สมาร์ทโฟน เป็นเครื่องบันทึกเสียง โดยไมค์ Rode SmartLav+ ถูกออกแบบมาสำหรับการใช้งานกับสมาร์ทโฟนโดยเฉพาะ (รองรับเฉพาะแจ็คของสมาร์ทโฟน) และสามารถควบคุมผ่านแอปพลิเคชันได้
ข้อเสียของเครื่องบันทึกเสียงแยก
ข้อเสียหลักของการใช้เครื่องบันทึกเสียงแยก เช่น Zoom H1 หรือสมาร์ทโฟน คือ ไม่สามารถตรวจสอบเสียงแบบเรียลไทม์ได้ ซึ่งหมายความว่าหากแบตเตอรี่หมด ไมค์เลื่อนผิดตำแหน่ง หรือเกิดปัญหาอื่น ๆ ระหว่างการบันทึก อาจไม่รู้ตัวจนกว่าจะกลับมาแก้ไขในขั้นตอนตัดต่อ
รุ่นไมโครโฟน Lavalier
ชุดไมโครโฟนไร้สายส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับไมโครโฟน Lavalier มาตรฐาน ซึ่งจะให้เสียงที่ใช้ได้ดีในระดับหนึ่ง แต่หากคุณต้องการเพิ่มคุณภาพเสียงจากรุ่นมาตรฐาน การอัพเกรดไปใช้ไมโครโฟนที่มีคุณภาพสูงขึ้น เช่น Countryman B6 หรือ Sennheiser ME-2 จะช่วยให้ได้เสียงที่ดีกว่าและคมชัดขึ้น
เทคนิคการติดไมโครโฟน Lavalier
ในหลาย ๆ สถานการณ์สัมภาษณ์ การเห็นไมโครโฟนเองก็ไม่ใช่ปัญหา แต่คุณควรพยายาม "แต่ง" ไมค์ให้ดูเรียบร้อย ซึ่งมักจะหมายถึงการซ่อนสายไมค์ภายในเสื้อของผู้สัมภาษณ์ และทำการสร้างห่วงที่ปลายสายไมค์ใต้ตัวรับสัญญาณ (capsule) ห่วงนี้มีสองประโยชน์หลัก: ทำให้การวางไมค์ดูเรียบร้อยขึ้น และช่วยลดเสียงที่เกิดจากการสัมผัสสายไมค์หากสายถูกดึงหรือขยับ
การทำห่วงนี้เข้าใจได้ง่าย แต่การทำให้ดีอาจยากในบางครั้ง โดยเฉพาะเมื่ออยู่ใกล้กับผู้สัมภาษณ์ ในขั้นตอนแรก ควรแจ้งให้ผู้สัมภาษณ์ทราบว่าต้องดึงไมค์ขึ้นจากเสื้อหรือไม่ และทำด้วยความเป็นมืออาชีพ จากนั้นให้ไมค์แก่ผู้สัมภาษณ์ และขอให้พวกเขาดึงไมค์ออกประมาณ 3-4 นิ้ว จากขอบเสื้อหรือระหว่างกระดุมเสื้อ เมื่อทำเสร็จแล้ว ให้ใช้คลิปของไมค์ติดที่ตำแหน่งที่เหมาะสม 6-8 นิ้ว จากปากของผู้สัมภาษณ์
การติดตั้งไมโครโฟน Lavalier โดยใช้คลิป
เมื่อคุณเปิดคลิปไมโครโฟนออกแล้ว ให้ร้อยสายไมค์กลับผ่านคลิปในลักษณะรูป “U” จากนั้นที่ด้านหลังของคลิป ให้สร้างรูป “U” กลับหัวขนาดเล็กโดยการจับสายไมค์ที่ย้อนกลับมาให้เข้าที่ปลายคลิป ใช้เทปกาวสองหน้าหรือสเปกเทป (spike tape) เพื่อช่วยยึดให้ไมค์อยู่ในตำแหน่งที่มั่นคง
การฝึกฝนการติดตั้งไมโครโฟนอย่างนี้กับเพื่อนจะช่วยให้คุณเชี่ยวชาญยิ่งขึ้น อย่าท้อแท้หากทำไม่สำเร็จในครั้งแรก พยายามให้ไมโครโฟนชี้ไปที่ปากของผู้สัมภาษณ์ และควรหลีกเลี่ยงไม่ให้สายไมค์สัมผัสเสื้อผ้าหรือผมของพวกเขา เพื่อให้ได้เสียงที่ดีที่สุด
การใช้ไมโครโฟน Shotgun
ไมโครโฟน Shotgun หรือที่เรียกว่า ไมโครโฟนบูม เมื่อถูกติดตั้งที่ปลายของเสาไมโครโฟน (boom pole) เป็นไมโครโฟนที่มีรูปทรงเหมือนแท่ง ซึ่งเหมาะสำหรับการบันทึกเสียงในการสัมภาษณ์ ไมโครโฟนประเภทนี้เป็น ไมค์ทิศทาง (Directional) ซึ่งหมายความว่ามันจะรับเสียงมากจากทิศทางที่ชี้ไปและน้อยจากด้านข้าง
แม้ว่าไมโครโฟน Shotgun จะมีคุณสมบัติทั่วไปเช่นนี้ แต่ไม่ใช่ทุกตัวจะให้ผลลัพธ์เหมือนกัน เนื่องจากไมโครโฟนแต่ละรุ่นอาจมีลักษณะการรับเสียงที่แตกต่างกัน ดังนั้น การศึกษาลักษณะการรับเสียง (pickup patterns) ของแต่ละรุ่นจะช่วยให้คุณเลือกไมโครโฟนที่เหมาะสมกับการใช้งานได้มากขึ้น
ไมโครโฟน Shotgun สำหรับการสัมภาษณ์
สำหรับการสัมภาษณ์ในสถานที่ที่สามารถควบคุมเสียงได้ (controlled interviews) ไมโครโฟนที่นิยมใช้คือไมโครโฟนประเภท Cardioid หรือ Super/Hyper Cardioid เนื่องจากมีลักษณะการรับเสียงที่เน้นจากด้านหน้าและตัดเสียงจากข้างหรือหลังออกไป
ไมโครโฟน Rode NTG2, Rode NTG4+, Sennheiser MKH-416, และ Sennheiser MKE 60 เป็นตัวเลือกที่ดีและมีคุณภาพสูงสำหรับการใช้ในการสัมภาษณ์
ไม่ว่าจะเป็นการสัมภาษณ์ที่นั่งหรือสัมภาษณ์ที่จับมือถือบนถนน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการให้ไมโครโฟนอยู่ใกล้ที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยไม่ให้ไมค์เข้าไปในกรอบภาพ (frame) การที่ไมโครโฟนอยู่ใกล้จะช่วยให้เสียงของผู้พูดชัดเจนและดังขึ้น ทำให้คุณได้เสียงที่ชัดเจนและลดเสียงรบกวนจากพื้นหลัง
ฉันชอบใช้ C-stand พร้อม Auray pole holder สำหรับวาง K-Tek boom pole โดยตั้งไมค์ให้อยู่ข้างนอกกรอบภาพด้านบน และชี้ไมค์ไปที่ตำแหน่งตรงหน้าปากของผู้สัมภาษณ์ วิธีนี้จะช่วยให้ได้เสียงที่ดี และยังช่วยให้การสัมภาษณ์ไม่เป็นการรบกวนผู้สัมภาษณ์มากเกินไปเมื่อเทียบกับการติดไมค์กับเสื้อผ้าของพวกเขา
สิ่งที่ควรรู้เพิ่มเติม
ใช้ทั้งไมโครโฟน Shotgun และ Lavalier สำหรับการสัมภาษณ์
การใช้ทั้งไมโครโฟน Shotgun และ Lavalier เป็นทางเลือกที่ดี เพราะคุณสามารถเลือกไมโครโฟนที่เสียงดีที่สุดในขั้นตอนการตัดต่อ หรือหากเกิดปัญหาสัญญาณขาดหายจากไมโครโฟนตัวหนึ่ง ก็สามารถใช้ไมโครโฟนอีกตัวได้โดยไม่ทำให้คลิปเสียหาย การสร้างระบบสำรอง (redundancy) เป็นแนวทางที่ชาญฉลาดหากสัมภาษณ์นั้นสำคัญ
การใช้ "Dead Cats" สำหรับบันทึกเสียงกลางแจ้ง
หากคุณทำงานกลางแจ้ง ควรใช้ "Dead Cats" (ครอบไมค์กันลม) เพื่อช่วยลดเสียงลม พวกมันมีประสิทธิภาพมากและสามารถใช้ได้ทั้งกับไมโครโฟน Lavalier และ Shotgun
ลักษณะการรับเสียงของไมโครโฟน
ไมโครโฟนแต่ละตัวมีรูปแบบการรับเสียงที่แตกต่างกัน โดยทั่วไปจะมี 4 รูปแบบ ได้แก่ Omni, Cardioid, Hyper Cardioid, และ Shotgun ควรระวังการเข้าใจผิดเกี่ยวกับลักษณะการรับเสียง “Shotgun” เพราะไมโครโฟนไม่ทุกรุ่นที่ใช้ชื่อว่า Shotgun จะมีลักษณะการรับเสียงแบบนี้
ลงทุนในหูฟังคุณภาพดี
ควรลงทุนใน หูฟังคุณภาพดี เพื่อใช้ในการตรวจสอบเสียง แม้ในสถานการณ์ที่จำเป็นสามารถใช้หูฟังแบบ Earbuds ได้ แต่หูฟังสตูดิโอระดับมืออาชีพจะช่วยให้คุณสามารถตรวจสอบเสียงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป เพราะเสียงในไมโครโฟนคือส่วนที่สำคัญที่สุดของการสัมภาษณ์